อำเภอปัว อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งจังหวัดน่าน รายล้อมไปด้วยทุ่งนาป่าเขา
และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นที่ที่ต้องห้ามพลาดที่หนึ่งในประเทศไทย
![]() |
ตูบนาไทลื้อ ตูบนากาแฟ
วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน
ภาพ: เที่ยวไปใหญ่
|
วัดภูเก็ต
ภาพ: หลงรักเมืองปัว
วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน
มีระเบียงด้านหน้าโบสถ์ เป็นจุดชมวิวภาพทุ่งนามุมกว้าง 180 องศา
มองเสมือนพรมเขียวสดในช่วงฤดูฝน และทุ่งสีทองในช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว
มีฉากหลังเป็นทิวเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และวิหารไทยลื้อของวัดบ้านเฮี้ย
เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
ภาพ: TouronThai
วัดภูเก็ต มีการสร้างเทมเปิล
สเตย์ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆคือเป็นลักษณะของโรงแรมธรรมะ โดยสร้างเป็นอาคารขนาด
4 ชั้น มี 8 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 4 จะเป็นห้องปฏิบัติธรรม
และที่น่าสนใจคือตัวโรงแรมจะสร้างอยู่ใต้โบสถ์ของวัดภูเก็ต เนื่องจากวัดภูเก็ตสร้างอยู่บนเนินเขา
และมีการสร้างโรงแรมขึ้นบริเวณเชิงเขาด้านล่างของโบสถ์
ทำให้บริเวณลานโบสถ์กลายเป็นดาดฟ้าของโรงแรม และการที่เรียกว่าโรงแรมธรรมะ
เพราะมีการจัดห้องพักในลักษณะเดียวกับโรงแรม
ซึ่งผู้ที่เข้ามาพักจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด รวมทั้งจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ
เณรภายในวัด ได้ทำบุญ ตักบาตร
ที่สำคัญที่โรงแรมแห่งนี้จะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
ส่วนการเดินทางมาวัดภูเก็ตนั้นออกจากตัวอำเภอปัวนั้น
ให้ท่านกลับรถตรงบริเวณของเทสโก้ โลตัส เเละเลี้ยวซ้ายเข้ามาทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว
โดยให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบกับป้ายของวัดบอกเส้นทางตลอดทาง
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0 5468 8162 อบต.วรนคร
วัดร้องแง
![]() |
ภาพ: Paiduaykan.com
|
วัดร้องแง เป็นวัดโบราณของอำเภอปัว มีวิหารเก่าแก่โดดเด่นและงดงามด้วยวิหารศิลปะไทยลื้อ โดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าแก่ ของเมืองน่าน วัดร้องแงได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่น ลักษณะของวิหารหน้าบันเป็นลายพันพฤกษา วิหาร มีหลังคาคลุมต่ำ ในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัย
ภาพ : AOT
ผนังหลังองค์พระมีจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติและมีราชชาดก ฝีมือของช่าง
พื้นถิ่น บนเสาวิหารมีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดง หรือ ลายคำ ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น
ลายกรวยเชิง ลายพรรณพฤกษา ลายดอกไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมธรรมาสน์ทรงโบราณแบบดั้งเดิมของล้านนาที่หาชมได้ยาก
การเดินทางนั้นออกจาก อ.ปัว
ผ่านธนาคารกสิกรไทย กลับรถตรงเกาะกลางเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 1256 ทางเข้าตรงข้าม
โรงเรียนวรนครเข้าไป ประมาณ 200 เมตร และแยกซ้ายอีก 200 เมตร ผ่านวัดพระธาตุเบ็งสกัด
หลังจากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆจนถึงบ้านร้องแง วัดร้องแงจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5468 81612 อบต.วรนคร
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ภาพ: Thetrippacker
มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง
อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม
ภาพ: Somphob Upajak
เทือกเขาดอยภูคาประกอบด้วยแนวภูเขาสูงสลับซับซ้อน
โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์
และชมทะเลหมอกในยามเช้า ดอยภูคาเป็นต้นแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว
ภาพ: LOVETHAITRAVEL
ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง
ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า และ ป่าสนธรรมชาติ
เป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ ชมพูภูคา
ในเขตป่าดิบเป็นแหล่งต้นเต่าร้างยักษ์ ปาล์มดึกดำบรรพ์ เมเปิ้ลใบห้าแฉก
ต่างจากเมเปิ้ลที่อื่นซึ่งมีสามแฉก และยังเป็นแหล่งนกเฉพาะถิ่นที่หายากสองชนิด คือ
นกมุ่นรกคอแดง และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือ ฤดูหนาว
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 15-27 องศาเซลเซียส
ภาพ: ThaiHRhub
การเดินทางจังหวัดน่านเดินทางโดนรถยนต์ ทางหลวงหมายเลข 1080 สู่ อ.ปัว
ระยะทาง 60 กิโลเมตร จากนั้นแยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ระยะทาง
25 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0
5470 1000 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ดอยภูแว
ภาพ: Thaitrippacker
ยอดดอยภูแวเป็นยอดดอยที่มีความสูงชัน เป็นเทือกเขาเดียวกับภูเขาอัลไต
มีลักษณะโดดเด่น คือปราศจากต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่
มีเพียงหญ้าปกคลุมเล็กน้อยอีกทั้งยังมีลานหินและหน้าผาสูงชัน เช่น ผาแอ่น ผาผึ้ง
ดอยภูแว ค้นพบสุสานหอยซึ่งเป็นหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปีที่บริเวณบ้านค้างฮ่อ
อำเภอปัว ดอยภูแว
ภาพ: Reviewthaitravel
ในฤดูหนาวมีความสวยงามมาก
เนื่องจากมีบรรยากาศทะเลหมอกและสามารถชมพระอาทิตย์ควบคู่กันไปด้วย
เส้นทางเดินเท้าสู่ดอยภูแว
เหมาะสำหรับนักนิยมธรรมชาติที่มีความพร้อมด้านสภาพร่างกายมีอยู่สามเส้นทางคือ
- เส้นทางขึ้นด้านบ้านห้วยปู่ดู่
เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด เพราะทางกว้าง ชัด เดินสบาย
ระยะทางสั้นและชันน้อยที่สุด (ใช้เวลาเดินเฉลี่ยราว 4-6 ชั่วโมง)
ไม่มีทากในช่วงหน้าแล้ง
- เส้นทางขึ้นด้านบ้านห้วยปูด
(ใช้เวลาเดินเฉลี่ยราว 6-8 ชั่วโมง) อยู่ใกล้ ๆ กับทางขึ้นด้านบ้านปู่ดู่
ในอดีตเคยเป็นเส้นทางหลักสำหรับขึ้นภูแว แต่เมื่อทางขึ้นด้านบ้านปู่ดู่เปิดใช้
ทางเส้นนี้ก็ไม่มีคนใช้ไปโดยปริยาย เพราะเดินไกล ชันมากและทากเยอะ
- ทางขึ้นด้านบ้านมณีพฤกษ์ 2 (ใช้เวลาเดิน 2 วัน) ทางอุทยานฯไม่แนะนำ
เพราะอันตราย
ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางและลูกหาบสำหรับขึ้นภูแวได้ที่
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อัตราค่าบริการเจ้าหน้าที่นำทาง 200 บาท/คน/วัน
การเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 จากน่าน ผ่านอำเภอท่าวังผา
ไปจนถึงอำเภอปัว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาขึ้นทางหลวงหมายเลข
1256 สายปัว-บ่อเกลือ ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (25 กิโลเมตรจากอำเภอปัว)
ถึงอำเภอบ่อเกลือ แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางหลวงหมายเลข 1081 ไปอีกราว 34 กิโลเมตร
จะถึงหน่วยพิทักษ์ป่า ภค.9 (บ้านด่าน) อันเป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้าสู่ยอดภูแวเส้นทางสาย
ปัว-ดอยภูคา-บ้านด่าน ถนนค่อนข้างแคบ คดเคี้ยว ลัดเลาะไปบนเส้นทางสูงชัน อันตราย
ผู้ที่จะขับรถผ่านเส้นทางสายนี้ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5470 1000 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
วังศิลาแลง
ภาพ: เทศบาลตำบลศิลาแลง
เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นซอกหินผาที่มีลำน้ำไหลผ่านกัดเซาะหน้าผาหินเกิดเป็นวังน้ำวนทั้งหมด
7 แห่ง รวมระยะทางกว่า 400 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และโขดผาหินสวยงาม
นักท่องเที่ยวนิยมเรียกว่า"แกรนแคนยอนเมืองปัว" สันนิษฐานว่าเป็น 1 ใน
13 รอยเลื่อนแผ่นดินของประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัย คลายร้อน
และชมความงดงามของธรรมชาติ
การเดินทางมายัง วังศิลาแลง
นั้นอาจจะค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้ามาชมได้
แต่ไม่แนะนำให้เดินเข้าไปลึกมากเกินเพราะ อาจจะไม่ปลอดภัยนัก
ควรชมอยู่บริเวณจุดที่เเนะนำไว้ให้จะปลอดภัยที่สุด
ที่นี่นับว่าเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
เเละเป็นอีกจุดที่ท่านใดที่มาเที่ยวปัวเเล้วต้องห้ามพลาดมาชมความงามของธรรมชาติที่น้ำตกศิลาแลงเลยทีเดียว
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5479 2098
อบต.ศิลาแลง
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆก็มีความน่าสนใจอีกมากมายไม่แพ้กับที่ผมนำมายกตัวอย่างให้ดูเลยนะครับ
ถ้าท่านอยากมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ เที่ยวชมบรรยากาศธรรมชาติแบบเรียบง่าย
ขอแนะนำให้ท่านลองมาเที่ยวที่อำเภอปัว แล้วท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน และสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ด้วยครับผม











ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น