วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

สถานที่เที่ยวห้ามพลาดที่ ปัว

                       อำเภอปัว อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งจังหวัดน่าน รายล้อมไปด้วยทุ่งนาป่าเขา และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นที่ที่ต้องห้ามพลาดที่หนึ่งในประเทศไทย

  
ตูบนาไทลื้อ ตูบนากาแฟ 
วัดภูเก็ต  อ.ปัว จ.น่าน
ภาพ: เที่ยวไปใหญ่

    วัดภูเก็ต

ภาพ: หลงรักเมืองปัว

             วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน มีระเบียงด้านหน้าโบสถ์ เป็นจุดชมวิวภาพทุ่งนามุมกว้าง 180 องศา มองเสมือนพรมเขียวสดในช่วงฤดูฝน และทุ่งสีทองในช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว มีฉากหลังเป็นทิวเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และวิหารไทยลื้อของวัดบ้านเฮี้ย เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม

ภาพ: TouronThai

            วัดภูเก็ต มีการสร้างเทมเปิล สเตย์ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆคือเป็นลักษณะของโรงแรมธรรมะ โดยสร้างเป็นอาคารขนาด 4 ชั้น มี 8 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 4 จะเป็นห้องปฏิบัติธรรม และที่น่าสนใจคือตัวโรงแรมจะสร้างอยู่ใต้โบสถ์ของวัดภูเก็ต เนื่องจากวัดภูเก็ตสร้างอยู่บนเนินเขา และมีการสร้างโรงแรมขึ้นบริเวณเชิงเขาด้านล่างของโบสถ์ ทำให้บริเวณลานโบสถ์กลายเป็นดาดฟ้าของโรงแรม และการที่เรียกว่าโรงแรมธรรมะ เพราะมีการจัดห้องพักในลักษณะเดียวกับโรงแรม ซึ่งผู้ที่เข้ามาพักจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด รวมทั้งจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ เณรภายในวัด ได้ทำบุญ ตักบาตร ที่สำคัญที่โรงแรมแห่งนี้จะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด

            ส่วนการเดินทางมาวัดภูเก็ตนั้นออกจากตัวอำเภอปัวนั้น ให้ท่านกลับรถตรงบริเวณของเทสโก้ โลตัส เเละเลี้ยวซ้ายเข้ามาทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว โดยให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบกับป้ายของวัดบอกเส้นทางตลอดทาง สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0 5468 8162 อบต.วรนคร

วัดร้องแง
ภาพ: Paiduaykan.com

            
วัดร้องแง  เป็นวัดโบราณของอำเภอปัว  มีวิหารเก่าแก่โดดเด่นและงดงามด้วยวิหารศิลปะไทยลื้อ โดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าแก่ ของเมืองน่าน  วัดร้องแงได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่น  ลักษณะของวิหารหน้าบันเป็นลายพันพฤกษา วิหาร มีหลังคาคลุมต่ำ ในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัย

 
ภาพ : AOT

               ผนังหลังองค์พระมีจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติและมีราชชาดก ฝีมือของช่าง พื้นถิ่น บนเสาวิหารมีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดง หรือ ลายคำ ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น ลายกรวยเชิง ลายพรรณพฤกษา ลายดอกไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมธรรมาสน์ทรงโบราณแบบดั้งเดิมของล้านนาที่หาชมได้ยาก

                การเดินทางนั้นออกจาก อ.ปัว ผ่านธนาคารกสิกรไทย กลับรถตรงเกาะกลางเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 1256 ทางเข้าตรงข้าม โรงเรียนวรนครเข้าไป ประมาณ 200 เมตร และแยกซ้ายอีก 200 เมตร  ผ่านวัดพระธาตุเบ็งสกัด หลังจากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆจนถึงบ้านร้องแง วัดร้องแงจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5468 81612 อบต.วรนคร


อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 
ภาพ: Thetrippacker

                มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม


ภาพ: Somphob Upajak
  
                เทือกเขาดอยภูคาประกอบด้วยแนวภูเขาสูงสลับซับซ้อน  โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และชมทะเลหมอกในยามเช้า ดอยภูคาเป็นต้นแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว

 
ภาพ: LOVETHAITRAVEL

                 ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า และ ป่าสนธรรมชาติ เป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ ชมพูภูคา ในเขตป่าดิบเป็นแหล่งต้นเต่าร้างยักษ์ ปาล์มดึกดำบรรพ์ เมเปิ้ลใบห้าแฉก ต่างจากเมเปิ้ลที่อื่นซึ่งมีสามแฉก และยังเป็นแหล่งนกเฉพาะถิ่นที่หายากสองชนิด คือ นกมุ่นรกคอแดง และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย 

                  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือ ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 15-27 องศาเซลเซียส

ภาพ: ThaiHRhub

                  การเดินทางจังหวัดน่านเดินทางโดนรถยนต์ ทางหลวงหมายเลข 1080 สู่ อ.ปัว ระยะทาง 60 กิโลเมตร จากนั้นแยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ระยะทาง 25 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5470 1000 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ดอยภูแว

ภาพ: Thaitrippacker

                ยอดดอยภูแวเป็นยอดดอยที่มีความสูงชัน เป็นเทือกเขาเดียวกับภูเขาอัลไต มีลักษณะโดดเด่น คือปราศจากต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ มีเพียงหญ้าปกคลุมเล็กน้อยอีกทั้งยังมีลานหินและหน้าผาสูงชัน เช่น ผาแอ่น ผาผึ้ง ดอยภูแว ค้นพบสุสานหอยซึ่งเป็นหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปีที่บริเวณบ้านค้างฮ่อ อำเภอปัว ดอยภูแว


ภาพ: Reviewthaitravel

                ในฤดูหนาวมีความสวยงามมาก เนื่องจากมีบรรยากาศทะเลหมอกและสามารถชมพระอาทิตย์ควบคู่กันไปด้วย
  
                 เส้นทางเดินเท้าสู่ดอยภูแว เหมาะสำหรับนักนิยมธรรมชาติที่มีความพร้อมด้านสภาพร่างกายมีอยู่สามเส้นทางคือ

                 - เส้นทางขึ้นด้านบ้านห้วยปู่ดู่ เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด เพราะทางกว้าง ชัด เดินสบาย ระยะทางสั้นและชันน้อยที่สุด (ใช้เวลาเดินเฉลี่ยราว 4-6 ชั่วโมง) ไม่มีทากในช่วงหน้าแล้ง

                 - เส้นทางขึ้นด้านบ้านห้วยปูด (ใช้เวลาเดินเฉลี่ยราว 6-8 ชั่วโมง) อยู่ใกล้ ๆ กับทางขึ้นด้านบ้านปู่ดู่ ในอดีตเคยเป็นเส้นทางหลักสำหรับขึ้นภูแว แต่เมื่อทางขึ้นด้านบ้านปู่ดู่เปิดใช้ ทางเส้นนี้ก็ไม่มีคนใช้ไปโดยปริยาย เพราะเดินไกล ชันมากและทากเยอะ

                 - ทางขึ้นด้านบ้านมณีพฤกษ์ 2 (ใช้เวลาเดิน 2 วัน) ทางอุทยานฯไม่แนะนำ เพราะอันตราย

 ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางและลูกหาบสำหรับขึ้นภูแวได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อัตราค่าบริการเจ้าหน้าที่นำทาง 200 บาท/คน/วัน

                 การเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 จากน่าน ผ่านอำเภอท่าวังผา ไปจนถึงอำเภอปัว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาขึ้นทางหลวงหมายเลข 1256 สายปัว-บ่อเกลือ ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (25 กิโลเมตรจากอำเภอปัว) ถึงอำเภอบ่อเกลือ แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางหลวงหมายเลข 1081 ไปอีกราว 34 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์ป่า ภค.9 (บ้านด่าน) อันเป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้าสู่ยอดภูแวเส้นทางสาย ปัว-ดอยภูคา-บ้านด่าน ถนนค่อนข้างแคบ คดเคี้ยว ลัดเลาะไปบนเส้นทางสูงชัน อันตราย ผู้ที่จะขับรถผ่านเส้นทางสายนี้ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 0 5470 1000 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

วังศิลาแลง

ภาพ: เทศบาลตำบลศิลาแลง

                เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นซอกหินผาที่มีลำน้ำไหลผ่านกัดเซาะหน้าผาหินเกิดเป็นวังน้ำวนทั้งหมด 7 แห่ง รวมระยะทางกว่า 400 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และโขดผาหินสวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมเรียกว่า"แกรนแคนยอนเมืองปัว" สันนิษฐานว่าเป็น 1 ใน 13 รอยเลื่อนแผ่นดินของประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัย คลายร้อน และชมความงดงามของธรรมชาติ

                 การเดินทางมายัง วังศิลาแลง นั้นอาจจะค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้ามาชมได้ แต่ไม่แนะนำให้เดินเข้าไปลึกมากเกินเพราะ อาจจะไม่ปลอดภัยนัก ควรชมอยู่บริเวณจุดที่เเนะนำไว้ให้จะปลอดภัยที่สุด ที่นี่นับว่าเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก เเละเป็นอีกจุดที่ท่านใดที่มาเที่ยวปัวเเล้วต้องห้ามพลาดมาชมความงามของธรรมชาติที่น้ำตกศิลาแลงเลยทีเดียว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่  0 5479 2098 อบต.ศิลาแลง

                  สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆก็มีความน่าสนใจอีกมากมายไม่แพ้กับที่ผมนำมายกตัวอย่างให้ดูเลยนะครับ ถ้าท่านอยากมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ เที่ยวชมบรรยากาศธรรมชาติแบบเรียบง่าย ขอแนะนำให้ท่านลองมาเที่ยวที่อำเภอปัว แล้วท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน และสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ด้วยครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร้านอาหารอำเภอปัว

ครัวต้นตาล ภาพ: จากคุณ Sucheera Hongsakul ที่ตั้ง          : 348 หมู่ 8 ถนนน่าน-ทุ่งช้าง ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน  ประเภท      ...